วินัยและการลงโทษ

วินัยและการลงโทษ

หมวด 1

วินัยและการรักษาวินัย

ข้อ  1     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องรักษาวินัยตามที่กำหนดเป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติ ในหมวดนี้โดยเคร่งครัด

ข้อ  2     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องสุภาพเรียบร้อย และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานหรือผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งการในหน้าที่โดยชอบ

          ถ้าเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ได้รับคำสั่งเห็นว่าการปฏิบัติตามคำสั่งนั้น จะทำให้เกิดความเสียหายแก่สถาบัน หรือไม่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของสถาบัน ต้องเสนอความเห็นต่อผู้ออกคำสั่งทันที  หากผู้ออกคำสั่งยืนยันคำสั่งเดิม ให้เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างซึ่งได้รับคำสั่งปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งนั้น

ข้อ  3     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบและคำสั่งของสถาบัน

ข้อ  4     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เกิดผลดีหรือเกิด ความก้าวหน้าแก่สถาบัน ระมัดระวังรักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ของสถาบัน

ข้อ  5     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องอุทิศเวลาให้แก่สถาบันด้วยความอุตสาหะ เพื่อให้ภารกิจของสถาบันบรรลุซึ่งความสำเร็จ และต้องปฏิบัติงานตรงตามเวลาที่กำหนด จะละทิ้งหน้าที่มิได้

ข้อ  6     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องรักษาความลับของสถาบัน การนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และลูกจ้างในส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันไปเปิดเผยโดยมิใช่หน้าที่ของตน ให้ถือว่าเป็นการไม่รักษาความลับของสถาบัน

ข้อ  7     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องประพฤติและปฏิบัติตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพและมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักของสถาบัน

ข้อ  8     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของสถาบันต้องมีความสามัคคี และช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เกิดผลดีต่อสถาบัน

ข้อ  9     เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาหรือผู้ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้นั้น  การรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้งถือเป็นรายงานเท็จด้วย

ข้อ  10   เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ห้ามอาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ของตนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น

          การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่

ข้อ  11   เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องไม่ปฏิบัติงานอื่นใดซึ่งจะเป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ หรือผลประโยชน์ของสถาบัน

ข้อ  12   เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องไม่ปฏิบัติ หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่สถาบัน

ข้อ  13   เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องไม่ประพฤติให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ตนหรือแก่สถาบัน

ข้อ  14   เจ้าหน้าที่และลูกจ้างผู้ใดกระทำการในกรณีต่อไปนี้ ถือเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

(1)  ละทิ้งหน้าที่หรือขาดงานติดต่อในคราวเดียวกัน เป็นเวลาเกินกว่าสิบวันทำการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

(2)  ทุจริตต่อหน้าที่ หรือใช้ หรืออาศัยสิทธิ์ตามกฎระเบียบข้อบังคับใด ๆ กระทำหรืองดเว้นการกระทำ หรือพยายามกระทำการโดยทุจริต เพื่อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น

(3)  กระทำผิดวินัยกรณีใดกรณีหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันอย่างร้ายแรง

(4)  จงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ปฏิบัติหรือกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันอย่างร้ายแรง

(5)  ลักทรัพย์สินของสถาบัน หรือของผู้ปฏิบัติงาน

(6)  นำหรือมีอาวุธร้ายแรงเข้ามาในบริเวณสถาบัน

(7)  เล่นการพนันในเวลาทำงาน หรือภายในบริเวณสถาบัน

(8)  เมาสุราจนถึงขั้นอาละวาด

(9)  มีหรือเสพสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมาย

(10)  ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักของสถาบันอย่างร้ายแรง

ข้อ  15   ผู้บังคับบัญชาหรือผู้ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างต้อง เสริมสร้างและพัฒนาให้เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างมีวินัย และดูแลระมัดระวังให้เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างปฏิบัติตามวินัย ถ้ารู้ว่าเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างกระทำผิดวินัย จะต้องดำเนินการทางวินัย

          ผู้บังคับบัญชาหรือผู้ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อนี้  หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวโดยไม่สุจริตให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย

 

หมวด 1

การลงโทษ

ข้อ  16   โทษทางวินัยมี ๖ สถานคือ

(1)  ภาคทัณฑ์หรือตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

(2)  งดบำเหน็จความชอบ

(3)  ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง

(4)  ลดเงินเดือนหรือค่าจ้าง

(5)  ปลดออก

(6)  ไล่ออก

ข้อ  17   การลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่และลูกจ้าง ต้องลงโทษให้เหมาะสมกับความผิด ในคำสั่งลงโทษให้แสดงว่าผู้ถูกลงโทษกระทำความผิดในกรณีใด ตามข้อใด

ข้อ  18   เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหา ว่ากระทำผิดวินัยแต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรง ผู้อำนวยการจะแต่งตั้งกรรมการสอบสวนหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่จะเห็นสมควรตามความเหมาะสมแห่งเหตุที่ถูกกล่าวหา

ข้อ  19   เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใดกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้ผู้อำนวยการสั่งลงโทษ ภาคทัณฑ์หรือตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร งดบำเหน็จความชอบ ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง หรือลดเงินเดือนหรือค่าจ้าง อย่างหนึ่งอย่างใดให้เหมาะสมกับความผิด ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อน จะนำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ 

          ในกรณีที่กระทำผิดวินัยเล็กน้อย  ถ้าผู้อำนวยการเห็นว่ามีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้ก็ได้

ข้อ  20   เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใด มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ผู้อำนวยการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนโดยไม่ชักช้า

          เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จักต้องได้รับโทษไล่ออก เว้นแต่มีเหตุลดหย่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่ห้ามลงโทษต่ำกว่าปลดออก

ข้อ  21   เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใด มีกรณีถูกกล่าวหา ว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง  แม้ภายหลังผู้นั้นจะลาออกไปแล้ว  ผู้อำนวยการยังมีอำนาจสั่งลงโทษไล่ออกได้เว้นแต่เจ้าหน้าที่ผู้นั้นถึงแก่ความตายแล้ว

ข้อ  22   เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาเว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ  ผู้อำนวยการมีอำนาจสั่งพักงานเพื่อรอฟังผลการสอบสวนหรือการพิจารณาคดีได้  แต่ถ้าภายหลังปรากฏผลการสอบสวน หรือคำพิพากษาถึงที่สุดว่า  ผู้นั้นไม่ได้กระทำผิด  หรือกระทำผิดไม่ถึงกับจะต้องถูกลงโทษปลดออกหรือไล่ออก  และไม่มีกรณีที่จะต้องออกจากงานด้วยเหตุอื่น ก็ให้ผู้อำนวยการสั่งให้ผู้นั้นกลับเข้าปฏิบัติงานในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่ง ในระดับเดียวกันกับที่จะต้องใช้คุณสมบัติเฉพาะที่ผู้นั้นมีอยู่

          เงินเดือนของผู้ถูกสั่งพักงาน หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งพักงานให้เป็นไปตามที่ผู้อำนวยการกำหนด

ข้อ  23   หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวกับการสอบสวนการกระทำผิดวินัยให้เป็นไปตามที่สถาบันกำหนด 

ข้อ  24   ผู้ตรวจสอบภายใน มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการในการพิจารณาดำเนินการ