12 กันยายน 2562 - นักดาราศาสตร์ตรวจพบโมเลกุลน้ำในชั้นบรรยากาศบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ “K2-18b” ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ในเขตที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต นับเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงแรกที่มีทั้งน้ำและอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิต

as20190913 1 01

https://www.ucl.ac.uk/news/sites/news/files/planet_1.jpg

งานวิจัยครั้งนี้นำทีมโดย ดร.อังเยลอส ทซีอารัส (Dr. Angelos Tsiaras) จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนศึกษาชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ที่กำลังโคจรรอบดาวฤกษ์แม่ในระยะห่างที่ทำให้น้ำอยู่ในสถานะของเหลว และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Astronomy 

มวลมากกว่าโลก 8 เท่า ห่างออกไป 110 ปีแสง

K2-18b ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ เป็นดาวเคราะห์ที่มีมวลมากกว่าโลก 8 เท่า จัดอยู่ในประเภทดาวเคราะห์ซูเปอร์เอิร์ธ (Super-Earth)  โคจรรอบดาวแคระแดง ชื่อว่า “K2-18” ด้วยคาบ 33 วัน  ซึ่งดาวเคราะห์มีระยะห่างจากดาวฤกษ์แม่ในตำแหน่งที่ทำให้น้ำอยู่ในสถานะของเหลวได้ เรียกว่า “เขตที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต (habitable zone)” 

มีน้ำในชั้นบรรยากาศ 

การศึกษาครั้งนี้นำข้อมูลที่เคยบันทึกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2559 - 2560 โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลมาวิเคราะห์ใหม่ด้วยวิธี “ทรานสมิทชันสเปกโตรสโคปี (Transmission spectroscopy)”  ทำให้สามารถศึกษาองค์ประกอบของชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์ K2-18b ได้ และพบว่าดาวเคราะห์ดวงนี้มีไอน้ำอยู่ในชั้นบรรยากาศ รวมถึงพบฮีเลียมและไฮโดรเจน

ยังไม่ใช่บ้านใหม่ของมนุษย์โลก

ดาวเคราะห์ K2-18b อยู่ในตำแหน่งที่ได้รับรังสีจากดาวฤกษ์แม่ค่อนข้างมาก  มีองค์ประกอบทางชั้นบรรยากาศที่แตกต่างจากโลก และมีมวลมากกว่าโลกถึง 8 เท่า หมายความว่ามีแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวมากกว่าโลกค่อนข้างมาก ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้อาจจะยังไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์ สำหรับเป้าหมายต่อไปของทีมนักวิจัยนี้ คือ ศึกษาว่ามีปริมาณน้ำในชั้นบรรยากาศมากเพียงใด

สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับงานวิจัยครั้งนี้ คือ K2-18b เป็นดาวเคราะห์ประเภทซูเปอร์เอิร์ธ เป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่พบได้ทั่วไป รวมถึง K2-18 ที่เป็นดาวแคระแดง ก็พบได้เยอะในกาแล็กซีของเราเช่นกัน ดาวเทียมค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ “TESS” ก็คาดการณ์ว่าจะสามารถค้นพบดาวเคราะห์ประเภทซูเปอร์เอิร์ธได้อีกนับร้อยดวง

ทีมนักวิจัยเชื่อว่าดาวเคราะห์ K2-18b มีแก๊สไนโตรเจน และแก๊สมีเทนอยู่ในชั้นบรรยากาศอีก แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันยังไม่สามารถตรวจพบแก๊สดังกล่าวได้  หากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ พร้อมทำงานเมื่อใด จะสามารถศึกษาชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ดวงนี้ได้มีประสิทธิภาพสูงกว่านี้หลายเท่า

เรียบเรียง : ธนกร อังค์วัฒนะ - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.

อ้างอิง : https://www.ucl.ac.uk/news/2019/sep/first-water-detected-potentially-habitable-planet

| Category: ข่าวดาราศาสตร์ | Hits: 3961