นาซาประกาศให้ดวงจันทร์ของดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส (65803 Didymos) เป็นเป้าหมายของโครงการเบนวิถีโคจรดาวเคราะห์น้อยคู่ (The Double Asteroid Redirection Test) หรือ “DART” โดยมีกำหนดการปล่อยขึ้นสู่อวกาศในช่วงเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2564 ภารกิจหลักคือการทดสอบเทคโนโลยีที่จะใช้ป้องกันโลกจากการพุ่งชนของวัตถุนอกโลก

as20200630 1 01

ภาพจินตนาการแสดงยาน DART เมื่อเริ่มเข้าใกล้วัตถุเป้าหมาย

Credit : NASA/Johns Hopkins APL/Steve Gribben

 

ดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส จัดเป็นดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก (near-Earth asteroid) ค้นพบโดย โจ มอนตานี (Joe Montani) เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2539 ด้วยกล้องดูดาวขนาดหน้ากล้อง 0.9 เมตร ของหอดูดาวสจวต ของมหาวิทยาลัยแอริโซนา และใช้เวลาติดตามอย่างยาวนานจนสามารถระบุวงโคจรที่แน่นอนได้ แต่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการจนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2546 นักดาราศาสตร์ชาวเช็กเกีย เปเตอร์ ปราเวตส์ (Petr Pravec) พบว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีคู่ เป็นที่มาของชื่อ “ดีดิมอส” (Didymos) ซึ่งเป็นคำภาษากรีก δίδυμος แปลว่า คู่แฝด

คู่แฝดของมันเป็นบริวารขนาดเล็กหรือจะเรียกว่าเป็นดวงจันทร์ของดาวเคราห์น้อยดีดิมอสก็ได้ ล่าสุด ทางสหพันธ์ดาราศาสตร์นานาชาติ (IAU) ได้อนุมัติชื่ออย่างเป็นทางการของดวงจันทร์ดวงนี้ว่า “ดีมอร์ฟอส” (Dimorphos มีความหมายว่า สองรูปแบบ) สื่อถึงรูปแบบวงโคจรที่จะเปลี่ยนไปด้วยฝีมือของมนุษย์ผ่านภารกิจ DART  โดยดาวเคราะห์น้อยดีดิมอสมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 780 เมตร ส่วนดีมอร์ฟอสมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 160 เมตร

 

as20200630 1 02

ภาพของดาวเคราะห์น้อยดีดิมอสและดวงจันทร์ของมัน ซึ่งถ่ายด้วยกล้องโทรทรรศน์วิทยุอาเรซิโบ เมื่อวันที่ 23-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546

Credit : NASA

 

จริง ๆ แล้วดีดิมอสไม่ใช่วัตถุที่จะพุ่งชนหรือเฉียดโลกเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเป้าหมายที่เหมาะสมในการทดสอบเทคโนโลยีมากที่สุด กล่าวคือ เป็นการทดสอบเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ด้วยวิธี “Kinetic Impact” หรือการใช้ยานพุ่งชนเป้าหมายด้วยอัตราเร็วสูง โดยเป้าหมายคือการเปลี่ยนวงโคจรของดวงจันทร์ดีมอร์ฟอส ที่กำลังโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส

การพุ่งชนของยาน DART จะลดอัตราเร็วในการโคจรของดีมอร์ฟอส และจะมีการเฝ้าสังเกตการณ์จากกล้องโทรทรรศน์บนโลก เพื่อศึกษาว่าดาวเคราะห์น้อยทั้ง 2 ดวงมีการตอบสนองต่อการพุ่งชนครั้งนี้อย่างไร นอกจากนี้ยังมียานขนาดเล็กชื่อว่า “LICIACube” ที่จะแยกตัวออกมาก่อนการพุ่งชน ทำหน้าที่ในการบันทึกการพุ่งชนของ DART อีกด้วย

 

as20200630 1 03

ภาพจำลองการปฏิบัติภารกิจของยาน DART  ซึ่งในช่วงแรกวัตถุเป้าหมายยังใช้ชื่อว่าดีดิมอส บี (Didymos B) ต่อมาจึงมีการเสนอให้เปลี่ยนเป็นดีมอร์ฟอส (Dimorphos)

Credit : www.dart.jhuapl.edu

 

ยาน DART มีอุปกรณ์ชื่อว่า “DRACO” (Didymos Reconnaissance & Asteroid Camera for OpNav) ซึ่งเป็นกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่ต่อยอดมาจากอุปกรณ์ถ่ายภาพของยานนิวฮอไรซันส์ ใช้ในการนำทางและระบุตำแหน่งของเป้าหมาย  มีเครื่องยนต์หลักชื่อว่า “NEXT-C” (NASA’s Evolutionary Xenon Thruster – Commercial) เป็นเครื่องยนต์ยุคใหม่ที่ใช้แผงรับพลังงานแสงอาทิตย์และสร้างแรงขับดันโดยใช้ซีนอน 

ภารกิจ DART เกิดจากความร่วมมือกันของหลายหน่วยงาน นำโดย สำนักงานความร่วมมือเพื่อปกป้องดาวเคราะห์ (Planetary Defense Coordination Office) องค์การนาซา และห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และยังมีหน่วยงานอื่น ๆ เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระดับนานาชาติชื่อว่า “Asteroid Impact and Deflection Assessment” (AIDA) ซึ่งร่วมมือกับองค์การอวกาศแห่งยุโรปที่กำลังจะส่งยานลำต่อไป ชื่อ HARA เพื่อไปยังดีมอร์ฟอสอีกครั้งในปี พ.ศ. 2567

 

เรียบเรียง : สิทธิพร เดือนตะคุ - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร.

 

อ้างอิง :

[1] www.nasa.gov/feature/nasas-first-planetary-defense-mission-target-gets-a-new-name

[2] www.nasa.gov/planetarydefense/dart

[3] www.iau.org/news/pressreleases/detail/iau2007

[4] https://dart.jhuapl.edu/Mission/index.php